วันศุกร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2558

ไปเที่ยวอังกฤษกัน!


ภาพจาก http://4.bp.blogspot.com

 




วาดฝันไว้สักวันหนึ่งในชีวิตฉันต้องไปเที่ยวที่ ประเทศอังกฤษ ให้ได้..หึหึ!!
และ 

 "Someday I'm gonna travel the world." 

"สักวันฉันจะเที่ยวให้รอบโลก"

สักวันนั้น ยังไม่รู้ว่าวันไหน 55555555555


ในวันนี้เราจะมาแนะนำ 

สุดยอด 10 สถานท่องเที่ยวในประเทศอังกฤษ
ให้ทุกคนได้รู้ว่าสถานที่น่าเที่ยวในเมืองนี้มีอะไรกันบ้าง และน่าเที่ยวขนาดไหน


LET's GO!...

1) สโตนเฮนจ์ (Stonehenge)

Stonehenge เที่ยวอังกฤษ ทัวร์อังกฤษ 10 สถานที่ pantip
Stonehenge 1 ในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ที่ยังไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าถูกสร้างมาเพื่ออะไรกันแน่
หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวอังกฤษที่สำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ ซึ่ง Stonehenge เป็นหนึ่งสถานที่ที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ของโลกเป็นอย่างมาก . . . Stonehenge ถูกสร้างโดยวัฒนธรรมก่อนคริสตกาล โดยไม่มีการจดบันทึกใดๆเกี่ยวกับการสร้างสโตนเฮนจ์เลย หลักฐานชี้ว่าก้อนหินขนาดใหญ่เหล่านี้ ถูกสร้างราว 2,500 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งก็ยังไม่แน่ชัดว่าจุดมุ่งหมายของผู้คิดและสร้างสร้างสโตนเฮนจ์นั้น คืออะไร แต่ผู้เชี่ยวชาญทางประวัติศาสตร์หลายคนกล่าวว่า ก้อนหินเหล่านี้ถูกสร้างมาเพื่อใช้ในพิธีกรรมบางอย่าง อาจจะเป็นทางศาสนาก็เป็นได้



 

2) หอนาฬิกา Big Ben

Big Ben เที่ยวอังกฤษ ทัวร์อังกฤษ 10 สถานที่ pantip
หอนาฬิกาบิกเบนแลนด์มาร์คของกรุงลอนดอน
หอนาฬิกาบิกเบนเป็นเป็นสถานที่ท่องเที่ยงกรุงลอนดอนอันดับ 1 ซึ่งชื่อของหอนาฬิกาบิกเบนนั้น ไม่ได้หมายถึงแต่ตัวหอคอยเท่านั้น แต่ยังหมายถึง ระฆัง ขนาดยักษ์ หนักราว 16 ตัน ที่อยู่บนยอดหอคอยด้วย ระฆังนี้สร้างเพื่อเป็นเกียรติยศแก่เบนจามิน ฮอลล์ (Benjamin Hall) บารอนแห่งลาโนเวอร์ โดยจารึกชื่อของเขาไว้ที่ข้างระฆัง แต่บางแห่งกล่าวว่าชื่อระฆังนี้ตั้งจากชื่อนักมวยรุ่นเฮฟวี่เวตชื่อเบนจามิน เคานต์ (Benjamin Caunt) บางแห่งก็กล่าวว่าระฆังนี้ควรใช้ชื่อว่าวิกตอเรีย สุดท้ายก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่า ชื่อนั้นมาจากใครกันแน่
หอนาฬิกาบิกเบนเป็นหอคอยที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสามของโลก ซึ่ง Big Ben กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของกรุงลอนดอนและประเทศอังกฤษ ซึ่งจะพบได้บ่อยๆจากในหนัง หรือจากสื่อต่างๆ เช่น หนังเรื่อง Mars Attacks ที่ Big Ben ถูก UFO บุก >.<



 

3) ปราสาท Windsor

Windsor Castle เที่ยวอังกฤษ ทัวร์อังกฤษ 10 สถานที่ pantip
ปราสาทวินเซอร์อยู่ไม่ไกลจากลอนดอนมากนัก เป็นปราสาที่คนอังกฤษภูมิใจกับมันมาก
ปราสาท Windsor ตั้งอยู่ห่างจากกรุงลอนดอนไปทางตะวันตกเพียงประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งคนอังกฤษมักจะกล่าวว่าปราสาทแห่งนี้เก่าแก่และมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ที่นี่เป็นที่พำนักของราชินี Elizabeth ที่ 2 ซึ่งพระองค์จะมาอยู่ที่นี่เป็นเวลาหลายสัปดาห์ทุกๆปี 
ปราสาทแห่งนี้ถูกสร้างมาตั้งแต่ยุคสมัยของพระเจ้า Henry ที่ 2 ในช่วงปี 1154 ซึ่งในปัจจุบันปราสาทแห่งนี้อนุญาติให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมบางส่วน เท่านั้น เช่น State Apartment หรือโบสถ์ St Georges



 

4) York Minster

York Minster เที่ยวอังกฤษ ทัวร์อังกฤษ 10 สถานที่ pantip
มหาวิหารยอร์คมินิสเตอร์ แลนด์มาร์คของเมืองยอร์ค สวยและอลังการตามแบบฉบับมหาวิหารของยุโรป
หนึ่งในมหาวิหารแบบ Gothic ที่ใหญ่ที่สุดของยุโรปตอนเหนือ (เทียบได้กับมหาวิหารโคโลญจน์ของประเทศเยอรมัน) York Minister มีความสูงระฟ้าเป็นแลนด์มาร์คของเมืองเก่าแก่อย่าง York . . . York Minister เริ่มก่อสร้างในปี 1230 และเสร็จสิ้นในปี 1472
The Great East Window กระจกบานใหญ่ซึ่งอยู่ภายในของวิหารแห่งนี้ เป็นงานกระจกสียุคกลาง ที่ว่ากันว่ามีความใหญ่มากที่สุดของโลกเลยหละครับ ความอลังการไม่ต้องพูดถึง



 

5) มหาวิหาร Durham

Durham Cathedral เที่ยวอังกฤษ ทัวร์อังกฤษ 10 สถานที่ pantip
มหาวิหารอีกแห่งที่น่าไปของประเทศอังกฤษ มหาวิหารเดอร์แฮม
มหาวิหาร Durham ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอังกฤษ เป็นสิ่งปลูกสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชาว Norman ของยุโรป ความรุ่งเรืองสวยงามของมหาวิหารแห่งนี้ไม่ได้มาจากความสวยงามทางสถาปัตยกรรม เพียงอย่างเดียว โครงสร้างและการจัดวางส่วนต่างของสิ่งปลูกสร้างยังเป็นที่ร่ำลือถึงความทัน สมัย แม้ว่าจะถูกสร้างครั้งแรกในปี 1093 (ถึงแม้หลังจากนั้นจะมีการต่อเติม และรื้อก่อสร้างใหม่หลายครั้ง แต่ความยิ่งใหญ่ของวิหารแห่งนี้ยังคงรูปแบบของดีไซน์แบบฉบับของชาว Norman)




 

6) The Cotswolds

The Cotswolds เที่ยวอังกฤษ ทัวร์อังกฤษ 10 สถานที่ pantip
หมู่บ้านใน Cotswolds สร้างจากหินทั้งหมู่บ้าน ดูสวยงามแปลกตาไปอีกแบบ
Cotswolds นั้นหมายถึง เทือกเขาเล็กๆเป็นแนวยาวทางตอนใต้ของประเทศอังกฤษ ซึ่งจุดหลักของ Cotswolds (จุดที่สูงที่สุด) นั้นยาวประมาณ 330 เมตร
สิ่งปลูกสร้างในบริเวณนี้เป็นแบบก่อด้วยหิน ทั้งหมู่บ้าน ซึ่งหมู่บ้านแห่งนี้นอกจากจะดูสวยงามแล้วยังมีประวติศาสตร์ยาวนานอีกด้วย . . . ที่ Cotswolds เป็นแหล่งท่องเที่ยวอังกฤษที่มีชื่อเสียงและนิยมเป็นอย่างมาก แถมยังไม่ไกลจากกรุงลอนดอนนัก ทำให้การเดินทางมานั้นง่ายแสนง่าย และมีราคาไม่แพงด้วยครับ



 

7) Tower of London

Tower of London เที่ยวอังกฤษ ทัวร์อังกฤษ 10 สถานที่ pantip
หอคอยลอนดอนที่อดีตเป็นที่คุมขังนักโทษ แต่ในปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของอังกฤษ
มงกุฎแห่งราชวงศ์อังกฤษถูกเก็บไว้ที่นี่ หอคอยแห่งลอนดอน (Tower of London) ซึ่งที่นี่ถูกใช้เป็นคุกมาตั้งแต่ ค.ศ. 1100 จนไปถึงราว 1500 . . . ปราสาทแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อฤดูหนาวปี 1066 ให้เป็นส่วนหนึ่งของ Norman ในการรุกรานประเทศอังกฤษ และถูกใช้เป็นที่พำนักของราชวงศ์ ก่อนที่ภายหลังจะกลายมาเป็นคุกขังนักโทษ
ที่ Tower of London มีเรื่องเล่ามากมายเกี่ยวกับผี และเชื่อกันว่าเป็นบ้านผีสิงที่เฮี้ยนที่สุดในประเทศอังกฤษ ถ้าหากสงสัยลอง google ดู “Anne Boleyn” ผีที่เชื่อว่ายังสิงอยู่ที่หอคอยแห่งนี้ รอการไปผุดไปเกิด



 

8) Lake District

Lake District เที่ยวอังกฤษ ทัวร์อังกฤษ 10 สถานที่ pantip
อุทยานแห่งชาติ Lake District เดินทางไปได้ง่ายๆจากอังกฤษ
มีพื้นที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอังกฤษ จริงๆแล้ว Lake District ไม่ได้อยู่ในอังกฤษซะทีเดียว แต่มันอยู่ในประเทศเล็กๆทางตอนเหนือของอังกฤษ ชื่อว่า Cumbria (คัมเบรีย) ซึ่ง Lake District มีพื้นที่กว้าง และ เป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ
สถานที่ท่องเที่ยวของที่นี่ก็คือทะเลสาป รวมทั้งภูเขาทั้งเล็กและใหญ่ ไม่น่าเชื่อว่าแต่ก่อนมีแต่น้ำแข็งในพื้นที่นี้ . . . ถึงวันนี้มีวิวทิวทัศน์สวยงาม ราวกับเทพนิยาย ซึ่งที่นี่เป็นสวรรค์ของนักปีนเขาทั่วโลก . . . ด้วยความสวยงามของธรรมชาติในอาณาเขต Lake District  ทำให้มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวถึง 14 ล้านคนต่อปีเลยทีเดียว



 

9) Warwick Castle

Warwick Castle เที่ยวอังกฤษ ทัวร์อังกฤษ 10 สถานที่ pantip
ปราสาทสร้างด้วยหินสุดคลาสสิค สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดอีกแห่งของอังกฤษ
เดิมทีปราสาท Warwick เป็นปราสาทไม้ที่ถูกสร้างโดย วิลเลี่ยม ผู้พิชิต (William the Conqueror) ในปี 1068 ภายหลังถูกบูรณะใหม่โดยใช้หินในการก่ออาคารแทนไม้ในศตวรรตที่ 12 ต่อมาในศตวรรตที่ 14 ปราสาท Warwick ถูกรื้อสร้างใหม่อีกรอบ ซึ่งจุดประสงค์ในการสร้างใหม่นั้น มุ่งเน้นเพื่อใช้ในทางทหาร และถูกให้จัดเป็นแบบอย่างของป้อมปราสาทที่เหมาะแก่การทำสงคราม – เที่ยวอังกฤษ ทัวร์อังกฤษ 10 สถานที่ pantip
ในปี 2001 ปราสาท Warwick ถูกจัดให้เป็น 1 ใน 10 อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ของอังกฤษ และแน่นอนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอังกฤษที่เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากอีกด้วย



 

10) กำแพง Hadrian

Hadrian's Wall เที่ยวอังกฤษ ทัวร์อังกฤษ 10 สถานที่ pantip
กำแพงฮาเดรียน กำแพงโบราณที่น่าไปเยือนซักครั้ง หากคุณไปเที่ยวอังกฤษ
กำแพงฮาเดรียนถูกสร้างโดยจักรวัติโรมันเพื่อที่จะใช้เป็นกำแพงป้องกัน Britannia หนึ่งในอาณานิคมของโรมันจากชนเผ่าจากสก็อตแลนด์ที่มาบุกรุก . . . กำแพง Hadrian นั้นมีความยาวถึง 117 กิโลเมตร ลากยาวจากตอนเหนือของอังกฤษตั้งแต่ทะเลไอริสจนไปถึงทะเลเหนือ . . . กำแพง Hadrian เริ่มก่อสร้างเมื่อ 122 AD หลังจากที่จักรพรรดิ์ฮาเดรียนแห่งโรมันทรงมาเยือน และใช้เวลาก่อสร้าง 6 ปีเท่านั้น ซึ่งในปัจจุบันกำแพงฮาเดรียนยังคงเห็นได้ชัดทั้งจากเครื่องบิน และจากภาคพื้นดิน ซึ่งนักท่องเที่ยวที่นิยมประวัติศาสตร์มักจะมาเยี่ยมเยือนเสมอ ทำให้กำแพงแห่งนี้เป็นที่เที่ยวของอังกฤษที่นิยมเป็นอันดับต้นๆเลยหละ


หือออออออออออ....ประเทศนี้น่าเที่ยวมากอ่ะ 
อยากไปแย้ววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว
** เก็บตังค์!  เก็บตังค์! เก็บตังค์! **
เก็บตังค์วันนี้ ได้ไปวันไหน?





ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : http://amazingthaisea.com

ทำไมถึงเรียก "อังกฤษ" ว่า "เมืองผู้ดี"


เคยสงสัยกันมั้ยคะว่าทำไมเขาถึงเรียก ประเทศอังกฤษ ว่า เมืองผู้ดี 
และเรียก คนอังกฤษ ว่า ผู้ดีอังกฤษ

 แล้วประเทศอื่นล่ะ ทำไมไม่เรียกแบบนั้นบ้าง.....?
และวันนี้เราจะมา ไขข้อสงสัยกัน


english

อดีตอังกฤษนั้นเคยเป็นประเทศที่มีความเจริญรุ่งเรืองในทุกๆด้าน อังกฤษจึงกลายเป็นตัวอย่างของอารยธรรมดีๆให้แก่ทั่วโลก ไม่ใช่แค่นั้นนะครับ ชาวอังกฤษยังถูกเรียกว่า “ผู้ดีอังกฤษ” อีกด้วย ก็เพราะขนบธรรมเนียมประเพณีที่เพรียบพร้อม

ทั้งการแต่งกายที่เป็นเอกลักษณ์งดงาม คำพูดสุภาพอ่อนหวาน บ้านเมืองก็มีระเบียบวินัย หรือแม้แต่มารยาทในการรับประทานอาหาร ที่เรียกได้ว่าทำอะไรก็ดูดีไปเสียหมด เหมือนผู้ดีมีชาติตระกูลนั่นเอง

english1

นอกจากนั้นหากย้อนกลับไปเรื่องของการศึกษา คนไทยสมัยก่อนๆที่ไปเรียนที่อังกฤษ ส่วนใหญ่ก็เข้าเรียนกันในมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดหรือเคมบริดจ์ ซึ่งทั้งสองแห่งเป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่ที่สุดในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ

จากอดีตจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นชนชั้นราชวงศ์ ขุนนาง คนชั้นสูง นักการเมือง มักจะจบการศึกษาจากสองสถาบันนี้ เนื่องจากเป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่และมีประวัติอันยาวนาน มีกฎระเบียบและประเพณีที่เคร่งครัดและถือสืบทอดกันมานับหลายร้อยปี

ถ้าสังเกตคนที่จบการศึกษาจากสองสถาบันนี้จะมีภาพของความเป็นผู้ดีติดมา ภาพผู้ดีในที่นี้หมายถึงภาพของคนที่มีการศึกษาชั้นสูงและผ่านการขัดเกลาด้าน การวางตัวหรือระเบียบวินัยนั่นเอง

 *1 






เราไปเปิดเจอ "ความจริงเมืองผู้ดี" อยู่บทหนึ่ง ซึ่งเราอ่านแล้ว คือชอบอ่ะ......อ่านไปขำไป :D
เลยเอามาแปะไว้ให้ได้อ่านกัน

"73 ความจริงเมืองผู้ดี"

1 ว่ากันว่าลอนดอนเป็นเมืองที่ครึ้มฝนตลอดปี
2 จริงๆ แล้วไม่ต้องแค่ลอนดอน ที่ไหนแถวนี้มันก็ครึ้มฝนทั้งนั้น
3 แต่ถ้าเดินตากฝนที่อังกฤษมักจะไม่ทันเปียก เพราะมันเป็นแค่ละอองเบาๆ
4 แต่เวลาตกหนักก็เหมือนห่าลงเหมือนกัน
5 คนอังกฤษรู้จักอาหารอินเดียพอๆ กับอาหารของตัวเอง
6 และร้านอาหารอินเดียก็เยอะมากเช่นกัน
7 มากแค่ไหน? ก็เหมือนกับส้มตำไก่ย่างที่เมืองไทยนั่นแหล่ะ
8 เพราะอินเดียเคยเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ ที่สนิทสนมกับอังกฤษที่สุด
9 ฉะนั้นไม่ต้องเเปลกใจ ที่จะเห็นคนอินเดียเดินกันขวักไขว่
10 อังกฤษก็มีหน้าร้อน
11 หน้าร้อนของมันคือประมาณยี่สิบห้าองศา
12 ซึ่งบ้านกูเรียกว่าหน้าหนาว
13 แถมตอนกลางคืนยิ่งหนาวกว่าเดิม
14 ยิ่งถ้าบ้านอยู่ติดทะเล แนะนำให้นั่งกินเหล้าอยู่ในบ้านดีกว่า
15 เมื่อรู้ว่ามันหนาวแบบนี้แล้ว ก็ไม่ต้องไปถามหาซื้อน้ำแข็ง
16 เพราะส่วนใหญ่แล้วมันไม่มีขาย
17 เวลากินอาหาร คนอังกฤษนิยมดื่มไวน์แทนน้ำ
18 ถ้าเราจะดื่มน้ำ เขาจะคิดว่าเรากระหาย
19 แล้วให้ไปรินน้ำประปาจากก็อกเอา
20 เพราะน้ำเปล่าที่นี่มันขวดละเจ็ดสิบกว่าบาท
21 ชื่อเดิมของลอนดอนคือ ลอนดิเนียม
22 ใครเคยคิดว่าอังกฤษเป็นนักล่าอาณานิคม ก็ให้สะใจได้
23 เพราะมันเคยเป็นเมืองขึ้นของโรมัน

24 Kiss แปลว่าจูบ
25 กริยาของการจูบคือ "ดูด"
26 ใช่! ที่ภาษาไทยเรียกว่าดูดปากกันนั่นแหล่ะ
27 แต่ก็ไม่จำเป็นต้องจูบที่ปากอย่างเดียว
28 อาจจูบที่แก้ม หรือที่ไหนก็ได้
29 ส่วนหอม หรือหอมแก้ม ภาษาอังกฤษ เรียก Smell
30 แต่ถ้าฝรั่งบอกสเมล ไม่ได้แปลว่าหอม แต่แปลว่า "ดม" ต่างหาก
31 เวลามีคนบอกว่า May i kiss you? ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาอยากจะจูบปากเราเสมอไป
32 แค่เอามือกอดเอวคนถาม แล้วยื่นหน้าไปใกล้ๆ ให้เขาจูบแก้มก็พอ
33 อ้อ! ในขณะที่เขาจูบที่แก้มของเรา เราก็ควรจูบตอบด้วยเช่นกัน
34 อาจจะเก้อเขินสำหรับคนไทย
35 แต่บ่อยเข้าก็จะชินไปเอง
36 โดยเฉพาะผู้ชายไทยแถวนี้ ปรับตัวเร็วมาก
37 จนบางครั้งเกือบจะลามปามไปจูบปากเขาเหมือนกัน
38 การบิดล็อกกุญแจของไทยส่วนใหญ่วนตามเข็มนาฬิกา
39 ส่วนอังกฤษทวนเข็ม
40 ไม่ได้เป็นเเค่กุญแจอย่างเดียว สวิทต์ไฟ ก็อกน้ำ และอีกหลายอย่างมันสวนทางกับบ้านเราหมด
41 ยกว้นขับรถด้านเดียวกัน
42 หมายถึงขับด้านขวาเหมือนกัน ไม่ใช่ด้านคนขับ
43 หลายคนเคยคิดว่าถนนหนทางที่อังกฤษจะดี
44 แต่มันก็คล้ายๆ บ้านเรานั่นแหล่ะ
45 แถมแคบกว่าอีกต่างหาก
46 เวลาขี่จักรยานที่อังกฤษควรใส่หมวกกันน็อก
47 เพราะบางทีอาจโดนตำรวจจับได้
48 แต่ถ้าขี่บีเอ็มเอ็กซ์ หรือเล่นไบค์ซิเคิลสตัน ไม่ใส่หมวก ตำรวจก็ไม่จับ
49 ไม่ต้องถามว่าทำไม เพราะไม่รู้เหมือนกัน
50 เวลาขับรถอยู่แล้วจะขอบคุณ ของไทยให้ก้มหัว
51 ของอังกฤษให้ยกมือทำท่าไฮไฟว์
52 ซึ่งถ้ามึงมาทำไฮไฟวที่ไทย อาจโดนปาดหน้า แล้วให้ฟัก
53 ใครจะรู้ ก็กูนึกว่ามึงแจกฟัก
54  สิ่งที่ควรระวังเวลาขับรถยนต์ที่เมืองไทยคือ มนุษย์ หมา มอเตอร์ไซค์ และอะไรก็ตามที่มันเล็กกว่ารถเรา
55 แต่ที่อังกฤษ ต้องระวัง กระรอก กระต่าย เม่น แบดเจอร์ หมาจิ้งจอก กวาง ลา วัว กระทิง ม้า คนขี่ม้า และสเก็ตเตอร์
56 เวลาไปซื้อเสื้อผ้าตามห้าง ไม่จำเป็นต้องซื้อไม้แขวนเสื้อเพิ่ม
57 เพราะส่วนใหญ่มันจะแถมไม้แขวนอันที่แขวนเสื้อที่ซื้อมาด้วย
58 แต่ไม่ได้หมายความว่า ถ้าเสื้ออยู่ที่หุ่น จะแถมไอ้หุ่นโชว์ด้วย
59 ไม่ต้องตกใจ เวลาฝรั่ง ทำท่าสนใจอะไรเกินเหตุ ซึ่งบ้านเราเห็นแล้วบอกว่าตอแหล
60 เพราะภาษาบ้านมันไม่มีวรรณยุกต์ที่ใช้บอกอารมณ์ มันจึงต้องใส่อารมณ์เกินเหตุ
61 Public Bar เรียกย่อๆ ว่าผับ
62 คนไทยเวลาไปผับ หมายถึงไปแดนซ์ ไปเมา ไปหาเหยื่อ ไปเสียตัว
63 แต่ถ้าคนอังกฤษบอกว่าไปผับหมายถึงไปกินข้าว ไปชิลล์เบียร์
64 ถ้าจะแดนซ์ ต้องบอกว่าไปเธค หรือดิสโก้เธค
65 ฟังแล้วอาจดูเชยๆ แต่มันเรียกอย่างนี้จริงๆ
66 หน้าร้อน เราจะเห็นฝรั่งใส่บิกินีอาบแดดเต็มหาด
67 เต็มหาดในที่นี้หมายถึง ไม่มีที่ให้เดิน
68 ดังนั้นเราจึงไม่จำเป็นต้องเดินไปดูนมฝรั่ง
69 เพราะอยู่ตรงไหนก็เห็น
70 ดูได้ แต่อย่าลามปามไปจับล่ะ
71 เพราะความคิดที่ว่าฝรั่งฟรีเซ็กซ์นั้นผิด
72 ฝรั่งที่ฟรีเซ็กซ์ ส่วนใหญ่อยู่พัทยา
73 ถ้าอยากได้แต่ไม่อยากไปพัทยา ไปหาเอาแถวซอยนานา


 *2 








*1  ข้อมูลจาก : คำถามชวนอ้อไทยรัฐ  
        ที่มา    http://www.wegointer.com/2014/09/england-27/  
*2   ที่มา    http://khunkrabi.exteen.com/20090719/entry

อังกิ๊ดดดดดดดดดด อังกฤษ..........!!!





ภาพจาก : http://www.247friend.net/blog/cherrysherbet/2012/12/21/entry-4


 Hello ENGLAND!
สวัสดี อังกิ๊ดดดดดดดดดด อังกฤษ..........!!!
วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ "ประเทศอังกฤษ"กัน ซึ่งประเทศอังกฤษเป็นประเทศที่เราชอบมากกกกก ค่อนข้างบ้าเลยล่ะ 5555555 
คงจะเริ่มจากที่เราชอบดูกีฬาฟุตบอบละมั้ง ทีมโปรดคือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เด็กผีจ้า...อิอิ
(อื้มๆๆ....ก็ไม่ได้อะไรนะ จะบอกว่า "เราเป็นผู้หญิงดูบอลนะ" อยากคุยเรื่องบอลคุยกับเราได้ นี่ไม่ได้อะไรจริงจริ๊งงงง นะ 555555)
   แล้วบังเอิญวันนั้นเพื่อนมันหยิบหนังสือมาเล่มหนึ่ง เป็นหนังสือเกี่ยวกับ ประเทศเจ้าของภาษาอังกฤษ   ไอ้เราก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก แค่เอามาเปิดดูผ่านๆ
เอ๊ะ! สดุดตา ที่ คำว่า เมืองแมนเชสเตอร์ เมืองลิเวอร์พลู เท่านั้นล่ะ เอามาอ่านจบเล่มเลยจ้า
และแล้วเราก็หลงเสน่ห์เมืองอังกฤษเข้าให้
**ขอแทรก** ตอนนี้เราเป็นติ่งวงบอยแบนด์จากอังกฤษ-ไอร์แลนด์ อยู่วงหนึ่ง เราไม่บอกหรอกว่าชื่อวง "One Direction" ไว้บล็อกหน้าค่อยไปทำความรู้จักกับวงนี้แล้วกันเนอะ 55555555

เริ่มโม้เยอะแล้ว ไปทำความรู้จักกับ "ประเทศอังกฤษ" กันเลยดีกว่า

เวลคั่ม ทู....อิงแลนด์

            คนไทยเรียกประเทศอังกฤษมักหมายรวมทั้งเกาะ ที่จริงแล้วประเทศอังกฤษเป็นส่วนหนึ่งของ สหราชอาณาจักร ชื่อเต็มของประเทศคือ The United Kingdom of Great Britain and Northern Ireland (ยาวเนอะ แต่ก็สั้นกว่าประเทศไทยเราอยู่ดี 555555) หรือจะเรียกสั้นๆว่า The United Kingdom หรือจะเรียกชื่อย่อว่า U.K. ก็ได้เน้อ


           U.K. ประกอบไปด้วย 2 เกาะขนาดใหญ่ คือ เกาะใหญ่(Great Britain) และแคว้นไอร์แลนด์เหนือ(Northern Island) โดย Great Britain หมายถึงเกาะใหญ่ซึ่งรวมถึงอาณาเขตของ ประเทศอังกฤษ(England) ประเทศเวลส์(Wales) และ ประเทศสก๊อตแลนด์(Scotland) ดังนั้น คำว่าสหราชอาณาจักร จึงหมายถึงประเทศที่รวมอาณาเขตของ 4 ประเทศเข้าด้วยกัน 
British
ภาพจาก http://www.myuktrip.com/uk.html

เมืองหลวง : เมืองหลวงของสหราชอาณาจักรคือกรุงลอนดอน ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศอังกฤษด้วย สำหรับประเทศเวลส์เมืองหลวงคือคาร์ดิฟฟ์  เมืองหลวงของประเทศสก๊อตแลนด์คือเอดินเบิร์กและเมืองหลวงของประเทศไอร์แลนด์เหนือคือเบลฟาสต์

"อิงแลนด์" (England)  ซึ่งเป็นชื่อในภาษาอังกฤษของอังกฤษในปัจจุบัน ได้มาจากชื่อ "อังเกิล"(Angles) ซึ่งเป็นชนเผ่าหนึ่งในบรรดาชนเผ่าเยอรมันหลาย เผ่าที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานในดินแดนนี้ ตั้งแต่ราว คริสต์ศตวรรษที่ 5 ถึง 6 โดยมาจาก "Engla Land" และกลายมาเป็น "England" ในปัจจุบัน 

ภาษา : ประชาชนทั่วทั้งสหราชอาณาจักรพูดภาษาอังกฤษ แต่ก็ยังมีภาษาอื่นๆ ที่ใช้เป็นภาษาราชการ เช่น ภาษาเวลล์ สก็อต และ แกลิค

สกุลเงิน : ปอนด์สเตอร์ลิง pound sterling(£GBP)
ภาพจาก : http://www.hands-onconsultants.com/english_schools/webboard_view.php?id=7

ฤดูกาล : ประเทศอังกฤษมีตั้ง 4 ฤดู เลยนะ เยอะกว่าบ้านเราซะอีก คือ
      ฤดูใบไม้ผลิ มีในช่วง   มีนาคม – พฤษภาคม
      ฤดูร้อน มีในช่วง   มิถุนายน – สิงหาคม
      ฤดูใบไม้ร่วง มีในช่วง   กันยายน - พฤศจิกายน
     

      ฤดูหนาว มีในช่วง   ธันวาคม - กุมภาพันธ์ 
      >>ถึงจะไม่มีฤดูฝน แต่ก็มีฝนตกนะ<<

เวลา : ประเทศอังกฤษมีเวลาช้ากว่าประเทศไทยประมาณ 6 ชั่วโมง ในช่วงปลายเดือนมีนาคม – ปลายเดือนตุลาคม และช้ากว่าประเทศไทย 7 ชั่วโมง ในช่วงปลายเดือนตุลาคม – ปลายเดือนมีนาคม



รู้ข้อมูลของประเทศอังกฤษกันไปบ้างแล้ว อยากไปเที่ยวกันป้ะ
ไว้บล็อกหน้าเราจะมาแนะนำสถานท่องเที่ยวในประเทศอังกฤษกัน คอยติดตามกันได้นะจ๊ะ ^^






ขอบคุณข้อมูลจาก :